เทคนิคการติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบคาสเซ็ต เครื่องปรับอากาศแบบคาสเซ็ตคือ เครื่องปรับอากาศที่ติดตั้งฝังอยู่บนฝ้าเพดาน มีต้นกำเนิดและเป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่น ข้อดีของเครื่องแบบคาสเซ็นคือ ใช้พื้นที่ในฝ้าน้อยและสะดวกในการติดตั้ง ไม่ต้องมีท่อลม ข้อเสียคือราคาแพง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเทียบรวมราคาทุกอย่างแล้ว บางครั้งเครื่องปรับอากาศแบบคาสเซ็ตอาจจะมีราคาถูกกว่าการติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบซ่อนในฝ้าและเดินท่อลมได้
สำหรับผู้ออกแบบระบบปรับอากาศแล้ว การมีเครื่องคาสเซ็ตก็เหมือนมีสวรรค์มาโปรด เพราะลดความยุ่งยากในการออกแบบไปได้มาก ไม่ต้องเสียเวลาในการประสานงานกับสถาปนิกหรือมัณฑนากรเรื่องระดับฝ้า ลดเวลาในการออกแบบไปได้มาก เรื่องความสวยงามก็เป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเครื่องแบบคาสเซ็ต เพราะฝังเรียบอยู่กับฝ้า ไม่ต้องมีหน้ากากจ่ายลมสีเงินๆ ที่เห็นกันทั่วๆไป ไม่ต้องมีการลดระดับฝ้า และไม่ต้องมีเครื่องแอร์แขวนห้อยอยู่ใต้ฝ้า แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนก็เคยพบกรณีที่สถาปนิกบอกว่าเครื่องแบบคาสเซ็ตไม่สวย เพราะมีขนาดใหญ่เต็มฝ้า ดังนั้นเรื่องความสวยงามคงจะต้องแล้วแต่ความพึงพอใจของแต่ละคน
ผู้เขียนเองก็ได้หลงเสน่ห์ของเครื่องคาสเซ็ตและได้ออกแบบให้กับอาคารเล็กๆแห่งหนึ่ง ทุกอย่างราบรื่นจนกระทั่งติดตั้งเสร็จ เมื่อเริ่มเดินเครื่องปรับอากาศ ปัญหาก็แสดงออกมาให้เห็น คือ ไม่สามารถปรับทิศทางลมเย็นให้ขนานไปกับฝ้าได้ ลมพุ่งลงมาตรงๆ ไม่สามารถปรับทิศทางได้เลย ผลที่ตามมาก็คือ คนที่นั่งอยู่ใต้เครื่องคาสเซ็ตจะหนาวมาก ในขณะที่คนนั่งห่างออกไปเพียง 2 เมตรไม่ได้รับความเย็น ลองพยายามปรับแก้กันอยู่หลายวิธีก็ไม่สำเร็จ ลงความเห็นกันว่าเป็นเพราะเครื่องคาสเซ็ตรุ่นที่ใช้อยู่นั้นไม่ดี ให้ลองเปลี่ยนเอาเครื่องคาสเซ็ตรุ่นอื่นมาใช้แทน เมื่อนำเครื่องรุ่นใหม่ซึ่งมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสจ่ายลมสี่ทิศทางมาติดตั้งแทน (รุ่นแรกเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าจ่ายลมสองทาง) ผลปรากฎมีสองแบบ คือ เครื่องรุ่น 3 ตันสามารถปรับลมให้ขนานกับฝ้าได้ ในขณะที่เครื่องรุ่น 2 ตันไม่สามารถปรับลมให้ขนานกับฝ้าได้ ทำได้ดีที่สุดแค่ให้ลมพุ่งลงมาในทิศ 45 องศา ซึ่งก็ยังคงทำให้คนที่นั่งเยื้องไปจากเครื่องถูกลมเย็นอยู่ดี เมื่อได้สังเกตอย่างละเอียดพบว่า หน้ากากจ่ายลมของเครื่องรุ่น 2 ตัน และ 3 ตันแตกต่างกัน หน้ากากของเครื่องรุ่น 3 ตันจะมีระดับต่ำกว่าฝ้าเล็กน้อย ในขณะที่ของเครื่อง 2 ตันหน้ากากจะเกือบเรียบไปกับฝ้า และเมื่อย้อนไปดูหน้ากากของเครื่องที่ติดตั้งทีแรกพบว่าเรียบเท่ากับระดับฝ้า หลังจากนั้น ผู้เขียนอยากได้รูปภาพแสดงความแตกต่างของการกระจายลม จึงได้นำกระดาษความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ความกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ไปติดตรงหน้ากากจ่ายลมของเครื่องแต่ละรุ่นเป็นระยะๆออกไป การทดสอบนี้ทำขณะเปิดพัดลมของแฟนคอยล์แรงที่สุด และพยายามปรับใบลมให้ปรับลมให้ขนานกับฝ้ามากที่สุด จากรูปจะเห็นได้ว่า กระดาษที่เครื่องรุ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้าไม่ขยับเลย ซึ่งแสดงว่าไม่สามารถกระจายลมไปด้านข้างได้เลย สำหรับเครื่องรุ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 2 ตัน กระดาษที่ติดอยู่ติดกับปากทางออกขยับบ้างเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าสามารถปรับลมให้เฉียงมาด้านข้างได้บ้าง ในขณะที่สำหรับเครื่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 3 ตัน กระดาษที่ติดห่างออกไปประมาณ 1 เมตรก็ยังถูกลมพัดอย่างแรง
สรุป จากประสบการณ์ที่พบมาแสดงให้เห็นว่า จะต้องระมัดระวังในการเลือกใช้เครื่องปรับอากาศแบบคาสเซ็ต เพราะถ้าไปเลือกใช้เครื่องที่เป่าลมลงมาตรงๆแล้ว จะไม่สามารถสร้างความสบายเชิงความร้อน (Thermal Comfort) ได้ตามวัตถุประสงค์ของการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ความระมัดระวังในการเลือกใช้ที่กล่างถึงนี้คือ ควรตรวจสอบการทำงานของรุ่นที่ต้องการใช้ขณะเครื่องทำงานจริงเสียก่อน ทั้งนี้เพราะผู้เขียนได้ประสบการณ์จากการหลงเชื่อแค็ตตาล็อคที่ลงรูปการกระจายลมที่สวยงานเอาไว้
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มิได้ต้องการต่อต้านเครื่องแบบคาสเซ็ต แต่หวังว่าข้อมูลต่างๆในบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศในการนำไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และหวังว่าเครื่องปรับอากาศยี่ห้อของไทยจะสามารถพัฒนาเครื่องปรับอากาศแบบคาสเซ็ตให้เหนือกว่ายี่ห้อของประเทศอื่นๆ เราจะได้ไม่ต้องเสียค่ายี่ห้อให้กับต่างชาติอีกต่อไป
|
แนะนำ สินค้า |