ReadyPlanet.com
bulletแอร์ CARRIER
bulletแอร์ CENTRAL
bulletแอร์ DAIKIN
bulletแอร์ EMINENT
bulletแอร์ FUJITSU
bulletแอร์ FOCUS
bulletแอร์ Haier
bulletแอร์ PANASONIC
bulletแอร์ LG
bulletแอร์ MITSUBISHI
bulletแอร์ MITSUBISHI
bulletแอร์ Midea
bulletแอร์ MITSUI
bulletแอร์ SAMSUNG
bulletแอร์ SHARP
bulletแอร์ STAR AIRE
bulletแอร์ TCL
bulletแอร์ TRANE
bulletแอร์ TOSHIBA
bulletแอร์ UNI AIRE
bulletแอร์ YORK
bulletแอร์เคลื่อนที่
bulletม่านอากาศ
bulletเครื่องทำน้ำเย็น
bulletเครื่องฟอกอากาศ
bulletเครื่องทำน้ำอุ่น
bulletแอร์มุ้ง
ไลน์ เพิ่มเพื่อน
dot
พัดลมดูดอากาศ Ventilators Fan
dot
bulletMITSUBISHI แบบติดผนัง
dot
เครื่องใช้ไฟฟ้า,บริการผ่อน
dot
bulletแอร์เก่าของคุณมีค่า
bulletกล้องวงจรปิด CCTV
bulletแอร์ตั้งพื้น 13-24000BTU
bulletผ่อนแอร์10งวด 0%
bulletเครื่องซักผ้า Panasonic
bulletเครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic
bulletSite Reference
dot
dot
bulletยินดีต้อนรับ ร้านค้าผู้จำหน่าย
bulletChat Online
bulletTechnology IT
bulletนานา สาระน่ารู้
bulletsite map
bulletรายชื่อขนส่งสินค้า ไปต่างจังหวัด
bulletช่างประจำเขต
bulletโปรโมชั่น
bulletบิล 2021
dot
dot
dot
ร้านค้าสมาชิก ท๊อปคูลแอร์
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
สมัครรับข่าวสาร

dot


ยินดีรับบัตรเครดิตทุกธนาคาร
บริการชำระด้วยบัตรเครดิต ถึงสถานที่ติดตั้ง สะดวกสบาย
รับสมัครงาน  พนักงานขาย  ช่างติดตั้ง


กระแส “โซเชียลเน็ตเวิร์กกิ้ง” ฟีเวอร์ article

กระแส “โซเชียลเน็ตเวิร์กกิ้ง” ฟีเวอร์ ทำให้คนกรุงเทพฯ ซิวตำแหน่งเล่นเฟซบุ๊กอันดับ 5 ของโลกมาครอง ท่ามกลางสายตาของคนทั่วโลกที่ร่วมเป็นพยาน แม้วันนี้ บนโลกไฮเทคทำให้ทุกอย่างเล็กลงทันตา แต่ขณะเดียวกันกลับสร้างระยะห่างระหว่างความสัมพันธ์ของคนมากขึ้น เมื่อใดที่พฤติกรรมคุณเข้าใกล้อาการเสพติดเทคโนโลยีแล้ว สมองจะถูกแทนที่ด้วยโปรแกรม Chat BB, MSN, What's App, Facebook, Twitter, Hi5, Google+ และสารพัด Applications ใช้ชีวิตอยู่กับการอัป โหลด แชร์กันจนภาษาวิบัติ และทำซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นเป็นประจำ แต่เชื่อหรือไม่ว่าปัญหาเหล่านี้ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะไม่เกิดขึ้นในสังคมไทยอีกต่อไป...
       
       “เฟซบุ๊ก” ฟีเวอร์ กรุงเทพฯ ติดอันดับ 5ของโลก
       โลกยุคการสื่อสารไร้พรมแดน ทำให้ผู้คนมากมายฝังตัวเองอยู่ในระบบโซเชียลเน็ตเวิร์กแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้วยความจำเป็นต้องใช้ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว สถานะความเป็นจริงบนโลกออนไลน์นั้นไม่มีอะไรคงที่ ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตาม Content ที่เกิดขึ้นมาและก็หายไป แต่รู้ไหมว่า Content นี่แหละ! เป็นตัวขุดสัญชาตญาณของมนุษย์ที่ต้องการอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
       
       “Facebook” จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนความอยากรู้อยากเห็นของคนทั้งโลก และดูเหมือนว่า Mark Zuckerberg รู้ใจกลุ่มลูกค้าของตัวเองเป็นอย่างดี ซึ่งเห็นได้จากยอดตัวเลขผู้ใช้ที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จากการรายงานของ Thailand Facebook Statistics - Socialbakersในปี 2554 ทำให้เห็นสถิติสาวกเฟซบุ๊กทั่วโลกที่ตอนนี้มีจำนวน 800 ล้านคนแล้ว
       
       ถ้ามาดูกันอย่างละเอียด ขณะนี้ทั่วโลกมีจำนวนผู้ใช้งาน Facebook ถึง 800 ล้านคน (ที่กล่าวไว้ข้างต้น) โดย 50% มีการใช้งานในแต่ละวัน มีจำนวนเพื่อนเฉลี่ยต่อคน 130 คน สำหรับกิจกรรมที่คนสนใจคือ pages, groups, event และ community pages ซึ่งมีการใช้งานถึง 70 ภาษา และจำนวน 75% เป็นคนนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนกลุ่มสาวก Facebook คนไทย จากสถิติจะเห็นได้ว่าตอนนี้มีผู้ใช้งานกว่า 13 ล้านคน ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 16 ของโลก และที่น่าสนใจคือกรุงเทพมหานครของเราติดอันดับเมืองที่มีคนใช้ Facebook มากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 5 ทั้งยังมีแนวโน้มจะขยับอันดับลดลงมาเรื่อยๆ
       
       ที่น่าสังเกต คือคนทั่วโลกใช้ Facebook ผ่านโทรศัพท์มือถือ 350 ล้านคนเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเทคโนโลยีตัวนี้จึงเข้ามาสนับสนุนความต้องการเข้าถึงโลกออนไลน์โดยไม่มีขอบเขต โทรศัพท์ไร้สายอย่างมือถือจึงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่ผู้ผลิตโทรศัพท์แต่ละค่าย พยายามทำสินค้าของตัวเองออกมาสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ยุคสมาร์ทโฟนที่มี Applications ครบเครื่อง จึงเกิดขึ้นและเติบโตอย่างรวดเร็ว และเมื่อมีผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นจำนวนมาก จึงไม่แปลกที่จะเกิดปัญหาขึ้นได้
       
       “มือถือ” อวัยวะที่ขาดไม่ได้
       เชื่อเลยว่าในอนาคตไม่ว่าคุณจะหยิบจับอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีชนิดใด ทุกคนจะเห็นสัญลักษณ์เป็นรูปอักษรตัว F และตัว T ที่หมายถึง Facebook และ Twitter ก็เป็นได้ อย่างที่บอกไว้ความรวดเร็วเพื่อการใช้งานในทุกๆ ที่เป็นเป้าหมายสำคัญในการเข้าถึงโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งมาเป็นตัวสนับสนุนให้คนสมัยนี้รู้สึกว่า “โทรศัพท์มือถือ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ ราวกับว่าเป็นอวัยวะที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกาย ขาดไปคงต้องตาย...”
       
       คงจำกันได้เมื่อช่วงเปลี่ยนผ่านปีใหม่ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์สัญญาณ Dtac ล่มติดต่อกัน 3 ครั้ง ทำให้หลายคนไม่เป็นอันกินอันนอน ติดต่อใครไม่ได้ โลกเสมือนจริงถูกตัดขาดอย่างฉับพลัน แทบใกล้ลงแดงตายไปทีละน้อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป หลังจากที่มีชีวิตอยู่แบบติดๆ ดับๆ เป็นช่วงๆ Dtacได้กลับมาต่อลมหายใจให้อีกครั้ง วันนั้นทุกคนกระจ่างเลยว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ แต่เป็นสัญญาณเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับมือถือต่างหาก ทันใดที่ไม่มีสัญญาณก็เหมือนกับว่าได้ตายไปจากโลก และทำให้เจ้าอุปกรณ์สี่เหลี่ยมชนิดนี้ดูไร้ค่าไปในทันที
       
       ไปไหนไปด้วย...มือถือในโลกยุคนี้ที่ทุกคนมี โดยเฉพาะมือถือยี่ห้อดัง อย่าง BlackBerry หรือ BB อุปกรณ์สื่อสารที่ทรงอิทธิพล ก่อนที่ iPhone กำลังเข้ามาแทรกแซง ซึ่งวัยรุ่นวัยเรียนนิยมใช้แชตคุยกัน แชตจนไม่เงยหน้ามองทาง และไม่แยแสผู้คนรอบข้างที่เดินผ่านไปมา จะเดินชนใครก็ไม่ได้สนใจ สนใจแค่เครื่องสี่เหลี่ยมที่อยู่ในมือเท่านั้น ไม่ว่าจะทำอะไรต้องมีอุปกรณ์ชนิดนี้ร่วมเดินทางไปด้วยเสมอ เดินก็แชต กินก็แชต ขึ้นรถลงเรือก็แชต ใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์อย่างสมบูรณ์แบบ
       
       เมื่อคิดว่าโทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ 5 และเปรียบเสมือนอวัยวะที่ขาดไม่ได้ จึงแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุด เวลานี้จึงเป็นโอกาสของ iPhone อุปกรณ์ไร้สายที่คนทั่วโลกยอมรับ ซึ่งสร้างขึ้นมารองรับคนวัยทำงานอย่างแท้จริง และเริ่มมีอิทธิพลต่อเด็กนักเรียน นักศึกษาบ้านเรามากขึ้น สังเกตได้จากยอดจอง iPhone 4s รุ่นล่าสุดภายในประเทศไทยเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา มีทั้งสาวกแอปเปิลเก่าและใหม่เข้าจอง iPhone 4s ทั้ง 3 เครือข่ายหลักในประเทศอย่างถล่มทลาย
       
       จากผลสำรวจของ Effective Measure เรื่องการใช้อุปกรณ์ไร้สายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำเดือนตุลาคม 2554 ประกอบด้วย ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ทำให้เราทราบว่าผู้บริโภคในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบันใช้สินค้าแบรนด์แอปเปิลสูงมากถึง 53.1% และถ้าขยายสัดส่วนของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจากอุปกรณ์ไร้สายออกมาเป็นแต่ละประเทศ ไทยใช้อุปกรณ์ไร้สายแบรนด์แอปเปิลในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สูงถึง 79.6% จากผู้ใช้อุปกรณ์ไร้สายทั้งหมดในประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก และเชื่อได้ว่าจะสามารถขยายตัวได้อีก
       
       พอคิดถึงกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์กกิ้งที่กำลังแทรกซึมสู่เราโดยไม่รู้ตัว ทำให้นึกถึงเพลงๆ หนึ่งที่ชื่อว่า "ระบายเฉยๆ" ซึ่งสามารถสะท้อนสังคมโลกในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี จึงขอตัดทอนเนื้อเพลงบางส่วนมาฝากให้คิด และขอบอกก่อนเลยว่าเพลงนี้โทรศัพท์มือถือ (iPhone) ไม่ได้ผิด แค่เจ้าของเพลง (Room 39) อยากระบายเฉยๆ
       
       เธอก้มหน้าอมยิ้มและหัวเราะตลอดเวลา
       ไม่ว่าเรานั้นจะไปใกล้ไกลแค่ไหน?
       เดี๋ยวซ้ายกด เดี๋ยวขวากด และยังไม่พอยังไม่หมด
       ต้องถ่ายรูปก่อนกินอาหารทุกครั้งไป...
       
       ฉันก็ได้แต่รอ แต่รอ รอเธอนั้นเงยหน้า
       เพื่อเพียงจะได้สบตาและได้สื่อสารกันบ้าง...
       
       ทำไมต้อง iPhone หลายคนอาจสงสัย เรามาฟังความเห็นของสาวกผู้คลั่งไคล้แอปเปิลเป็นชีวิตจิตใจเลยดีกว่า ชาวเว็บพันทิปบอกให้ฟังว่า “มันไม่ได้ดีที่สุด แต่มันลงตัวกับผม ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กกำลังเหมาะมือ รูปร่างหน้าตาดีไซน์สมส่วนเป็นแบบที่ชอบ รองรับความต้องการได้ทุกอย่างที่ผมต้องการใช้ กลุ่มเพื่อนส่วนใหญ่ใช้อยู่ก็คุยกัน มีปัญหาปรึกษากันได้ นอกจากใช้งานแล้วมันยังเป็นเหมือนเครื่องประดับสวยๆ ชิ้นนึง”
       
       “เราก็ใช้นะคะ iPhone 4 เนี่ย...นี่คุณแฟนก็กำลังจะซื้อ iPhone 4s อ่ะ...จริงๆ แล้ว มันใช้ร่วมกัน สร้างกิจกรรมให้ได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็น App Line หรือ What's Appช่วยให้ติดต่อกันได้ทั้งวัน คิดถึงก็ถ่ายรูป หรือไม่ก็ Tango Facetime หากันก็ได้ค่ะ อยากให้มองในแง่ดี และเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้คุ้มค่า”
       
       กับดักเทคโนโลยี
       Application ที่หลากหลาย ล่อใจให้ชวนเข้าไปท่องโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กอาจโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็ติดมันอย่างจั๋งหนับ แบบว่าสายตาไม่ละออกจากหน้าจอ ส่วนมือก็ติดอยู่กับปุ่มกดหรือคีย์บอร์ดอย่างเหนียวแน่นราวกับติดกาวเอาไว้ สุดท้ายจึงกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่เข้ามาติดกับดักเทคโนโลยีเสียแล้ว
       
       นพ.อภิชาติ จริยาวิลาศ จิตแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลศรีธัญญา กล่าวว่า อินเทอร์เน็ต จริงๆ แล้วมันมีข้อดีที่เยอะมาก สามารถใช้ในการติดต่อกัน การสื่อสารสังคม เปิดโลกความรู้ให้กว้างขึ้น แต่ปัญหามันจะเกิดถ้าใช้งานไม่เป็นและใช้ไม่ถูก อย่างการพูดคุยกับคนในอินเตอร์เน็ต เราไม่รู้จักเลยว่าคนที่เราคุยอยู่ด้วยนี่เป็นใคร เขาเป็นคนยังไง เป็นคนดีอย่างที่เราคิดหรือเข้าใจรึเปล่า จึงเกิดการหลอกลวงกันได้ง่าย
       
       การโดนหลอกจากการไว้เนื้อเชื่อใจคนในโลกออนไลน์ มีตัวอย่างให้เห็นมานักต่อนักไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือแม้แต่คนมีการศึกษาสูงก็ตาม คนที่ไม่ระวังตัวย่อมไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคนที่คิดจะหลอก จึงเกิดเป็นปัญหาสังคมตามมา อย่างน้อยๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับคนที่มัวแต่หมกมุ่นมากเกินพอดี เวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นจะทำให้สมาธิให้การทำกิจกรรมต่างๆ นั้นแย่ลง เพราะคิดแต่อยากไปแซต เล่นเฟซบุ๊ก ไปคอย up status อยู่ตลอดเวลา สุดท้ายก็เกิดเป็นปัญหาบานปลายวนเวียนเป็นวัฏจักรซ้ำรอยเดิมไม่ต่างกันอยู่ดี
       
       “โดยเฉพาะเด็กวัยเรียน การอยากมีเพื่อน อยากจะได้รับการยอมรับของกลุ่ม อย่างพวกเฟซบุ๊ก หรือโปรแกรมต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เขาเปิดโอกาสตัวเองและได้รับการยอมรับหรือสนับสนุนจากคนอื่นมากขึ้น ฉะนั้นการเล่น BB หรือ What's App สำหรับตัวเด็กเองอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพ่อแม่ควรให้เขาเห็นว่าการที่ต้องการมีจุดยืนในสังคมสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ใช่วิธีนี้วิธีเดียว และวิธีที่ดีที่สุดคือผู้ปกครองควรให้คำแนะนำแก่เด็ก ต้องชี้ประโยชน์และโทษของมันให้เขาเห็น”
       
       นอกจากนี้การชิตแชตในโลกออนไลน์ยังเกิดปัญหาเรื่องการใช้ภาษาไทยที่ไม่ถูกต้อง และระบาดอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเทรนฮิตคิดคำใหม่ๆ มาใช้ แต่ตั้งใจเขียนไม่ถูก จนเกิดความเคยชินและคุ้นเคยกับการเขียนผิดมาตลอด หรือที่เรียกกันว่า “ภาษาวิบัติ”
       
       ดร.กาญจนา นาคสกุล อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทย ราชบัณฑิตยสถาน กล่าวเตือนว่า ถ้าเขียนผิดหลัก โดยเฉพาะคำควบกล้ำ การเขียนวรรณยุกต์ที่ผิดเพี้ยนไป สุดท้ายมันก็จะเกิดการเขียนผิดๆ เป็นผลเสียกับตัวเราเอง ถ้าสะกดอย่างหนึ่งแล้วเขียนอีกอย่างหนึ่งต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดการจำไปเขียนอย่างผิดๆ ฉะนั้นออกเสียงอย่างไรต้องเขียนให้ตรงตามนั้นจะดีกว่า
       
       “ไม่ว่าจะเป็นการเขียนจมหมายด้วยกระดาษและการส่งอีเมล์ ทั้งสองมันเป็นการสื่อสารได้ทั้งหมด แต่ที่สำคัญเมื่อเราสื่อสารแล้ว ตัวอักษรนั้นมีคุณค่า มีลักษณะ มีกฎเกณฑ์ที่เราใช้มาแต่โบราณ เราควรยึดกฎเกณฑ์ของเราไว้ อย่าให้เสียไปโดยที่ไม่มีหลักเกณฑ์อะไรเลย และถ้าไม่มีหลักเกณฑ์ต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็จะอ่านหนังสือไทยไม่ออก จนกลายเป็นภาษาวิบัติไปในที่สุด”
       
       ถ้าเคยสังเกตจะเห็นว่า iPad ของ Steve Jobs มีขนาดเท่ากระดานชนวนของคนไทยสมัยโบราณ กระดานชนวนมีไว้เพื่อจดบันทึกข้อความแทนสมุดที่เราใช้กันอยู่ปัจจุบันนี้ เมื่อวิวัฒนาการของโลกเปลี่ยนไป จากกระดานชนวน กลายเป็น iPad แปลกตรงที่ขนาดเท่ากันเป๊ะ! หรือว่าที่จริงแล้ว คนไทยพบขนาดที่จะใช้ได้อย่างเหมาะมือก่อนเกิด iPad เสียอีก (ช่างน่าคิดจริงๆ)
       
       ไว้อาลัย...คนไทยยุคโลกาภิวัฒน์
       ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราใช้เทคโนโลยีเป็นปัจจัยที่ 5 ไปเสียแล้วนอกจากปัจจัย 4 ที่จำเป็น ซึ่งในสังคมไทยไม่เฉพาะผู้ใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีสำหรับการทำงานเท่านั้น ขณะเดียวกันวัยรุ่นวัยเรียนไม่สามารถแยกส่วนออกจากเทคโนโลยีได้เช่นกัน เทคโนโลยีมันเป็นตัวเสริมซึ่งเกิดขึ้นมาในทศวรรษนี้ และทุกคนได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทั้งนโยบายภาครัฐก็ออกมาอย่างชัดเจนที่จะให้เด็กไทยใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการศึกษาในอนาคต
       
       ถึงอย่างไรแล้วอย่างที่บอกไว้เทคโนโลยีไม่ได้เอื้อประโยชน์เพียงด้านเดียว ซึ่งแนวโน้มในอนาคตข้างหน้าอาจจะพอเดาได้ว่าโลกหลังยุคโลกาภิวัฒน์ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และผู้คนต้องปรับตัวเพื่อให้เท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน
       
       ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ขณะที่เรานำเทคโนโลยีเข้ามา เราขาดการเตรียมพร้อมรับมือกับมันในการที่จะใช้ ต้องรู้จัก Do & Don't การเลือกปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติสิ่งที่เข้ามา คือทุกอย่างมันมีเหรียญสองด้าน เทคโนโลยีเราขาดในเรื่องความรู้ความเข้าใจ ถ้าผู้ใหญ่บางครอบครัวยังกลัวเทคโนโลยี ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยีแล้วให้เด็กเรียนรู้เอง มันจึงเกิดเป็นช่องว่าง
       
       “เมื่อคนใส่ Content มากมายลงไปทั้งเกม โปรแกรมแชต เว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม การอัพโหลด ดาวน์โหลดสิ่งที่ไม่ควร เราไม่สามารถป้องกันได้หมด เพราะมันไม่มีกุญแจปิด พ่อแม่ก็ทำไม่เป็นว่าจะทำยังไงไม่ให้เด็กเข้าไป และยิ่งบางครอบครัวซ้ำเติมเข้าไปอีกที่ว่าพ่อแม่ไม่มีเวลาให้เขา ต้องออกไปทำงานอยู่ในโลกทุนนิยม จึงออกไปหาเงินอย่างเดียวเพื่อซื้อของเข้าบ้าน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ”
       
       “มันเป็นระหว่างรอยต่อของคนเก่าและคนใหม่ เชื่อว่าเด็กสมัยนี้ต่อไปอีกสัก 10 ปีข้างหน้า พ่อแม่เขาจะรู้เท่าทันลูกแล้ว เพราะเด็กสมัยนี้ใช้เทคโนโลยี อนาคตเขาจะบอกลูกต่อไปได้ว่าสิ่งไหนดี ไม่ดี แต่ตอนนี้คนที่อายุ 50 ปีขึ้นไปไม่มีทางรู้ทันลูกวัยรุ่นเลย ฉะนั้นอนาคตข้างหน้าจึงมีแนวโน้มว่าปัญหาการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กและลดลง เพราะคนเริ่มเรียนรู้และหาทางออกเจอ อีกอย่างหนึ่งเทคโนโลยีทำขึ้นมาเพื่อประโยชน์ ถ้ารู้จักการใช้มัน โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ มัน All in 1 ทั้งพูดคุยได้ ถ่ายรูปได้ เล่นอินเทอร์เน็ตได้ แค่โทรศัพท์อันเดียวสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย”
       
       โซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กอาจทำให้คนเสื่อมเสียได้ในชั่วพริบตา แต่ใช่ว่ามันไม่สร้างประโยชน์มหาศาลอย่างที่ผ่านมาเรื่องน้ำท่วม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเฟซบุ๊กช่วยได้มาก ซึ่งเป็นการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กให้เกิดพลังสามัคคี พอเห็นข่าวอะไรในเฟซบุ๊ก คนจะคอยติดตามและไปช่วยในทันที โลกเสมือนจริงมันไม่ต่างอะไรจากโลกแห่งความเป็นจริง ถ้าเราใช้อย่างถูกทาง
       
       การเข้าไปในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กจึงเหมือนการเลือกคบคน อาจต้องเจอทั้งเรื่องดีและไม่ดี ให้กลับนำมาคิด พิจารณา และบอกกับตัวเองว่าเราจะเรียนรู้จากมันได้อย่างไร ที่สำคัญคือต้องรู้จักใช้อย่าง “พอเพียง” จะได้เกิดความพอดี แล้วจะรู้สึก “พอใจ” กับการใช้ชีวิตเพื่อประโยชน์ในโลกออนไลน์
       

       
       ด้านThailand Facebook demographics ได้บอกถึงจำนวนผู้ใช้ Facebook ในปัจจุบัน โดยแบ่งตามสัดส่วนอายุในแต่ละช่วงวัย จะเห็นได้ว่ากลุ่มที่มีจำนวนผู้ใช้สูงสุด คือกลุ่มอายุระหว่าง 25-34 ปี คิดเป็น 31% ของจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด
       ขอบคุณข้อมูลจาก Socialbakers

 



       ผลวิจัย Cisco เผยแพร่รายงาน Connected World Technology Report ประจำปี 2011 ซึ่งไปสอบถามความเห็นจากนักศึกษามหาวิทยาลัยและพนักงานใหม่ที่เพิ่งสมัครงานใน 14ประเทศ ทั้งยุโรป เอเชีย และอเมริกา ผลการวิจัยมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น
       
       - ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากระบุว่า “มือถือ” เป็นเทคโนโลยีที่เขา/เธอเห็นว่าสำคัญที่สุดในปัจจุบัน
       - 7 ใน 10 บอกว่าเป็นเพื่อนกับหัวหน้าใน Facebook
       - ผู้ตอบเกือบทั้งหมดมี Facebook และเข้าไปใช้งานอย่างน้อยวันละครั้ง
       - 77% บอกว่าพกพามือถือมากกว่าหนึ่งเครื่อง
       - ผู้ตอบครึ่งหนึ่งบอกว่ายินดีทำกระเป๋าเงินหายมากกว่าทำมือถือหาย
       - นักศึกษา 2 ใน 5 บอกว่าไม่ได้ซื้อตำราเรียนที่เป็นกระดาษเลยในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา
       




นานา สาระน่ารู้

ออกกำลังกายตอนเช้าหรือตอนเย็นดี
ทำไมจีนเปิดประตูให้Teslaเจาะตลาดรถ EV ปล่อยให้แบรนด์ท้องถิ่นเจ็บตัวไปก่อน
ไดกิ้น”โหมแอร์พาณิชย์ตลาดภูธร ไทยยังโตอีก-ครัวเรือนถือครองแค่50%
บิ๊ก“กรุงไทย”เชื่อ ศก.โลกถดถอยไม่ถึงขั้นวิกฤติ คาดดอกเบี้ยลดอีก แนะเอสเอ็มอีปรับตัว-ขวนขวาย ทางการพร้อมช่วย
ออมสิน ออกสลากเงินฝาก 5 ปีวงเงินรวม 6 หมื่นล้าน
สถานะการเงินของไทย 2017
แชร์.. แผนการตลาดออนไลน์ ปี 2017 & เครื่องมือทำการตลาดออนไลน์ สู้ธุรกิจใหญ่กว่าอย่างไร้กังวลใน Google Search
ทำไมแอร์แบบธรรมดาจึงเย็นฉ่ำกว่าแอร์ inverter?
14 ศัพท์ฮิต...ใช้ผิดบ่อย
ตลาดแอร์หมื่นล.ระอุค่ายยักษ์ชิงเค้กหน้าร้อน
เพื่อน สันติราษฎร์วิทยาลัย 2523 article
สร้างภาพยนตร์ส่วนตัวจากเฟสบุ๊ก Timeline ด้วย "Timeline Movie Maker"
ใช้ iPhone โทรฟรีทั่วโลกด้วย Viber article
Face time สนทนาสด แบบเห็นหน้า article
WhatsApp..แชตกระจาย article
พยากรณ์อากาศ article
ค้าขายอย่างไร มัดใจลูกค้า article
เตือนไทยสุดเสี่ยง หลังสึนามิถล่มญี่ปุ่นโลกเข้าสู่ภัยพิบัติ
สาวจีนดังทะลุเน็ตเกาหลีฯ งามหนอ งามเกิ๊น "คน" หรือ "หุ่น" article
ผู้บริโภคยุคดิจิตอล เปลี่ยนวิถีชีวิต article
อยากขอเวลาสัก 7 นาที ! ดูให้จบ เพื่อตัวเราเองและครอบครัวของเราและผู้อื่น
สุขสันต์วันปีใหม่ สุขใจเป็นล้านเท่า‏ article
เนื้อคู่ = = = มีด้ายผูกติดนิ้วก้อยกันมาตั้งแต่เกิด
'ลูกเทวดา' กับฐานะคำค้นยอดนิยมอันดับหนึ่งแห่งเว็บไซต์เสิร์ชเอนจิน 'กูเกิล' article
วิ่ง...เสริมเกราะ กัน โรคหัวใจ-สมอง
แอปเปิลส่งไอแพดเขย่าตลาดไทย3ธ.ค. ปูพรมร้านไอสตูดิโอชนเครื่องหิ้วมาบุญครอง เคาะราคา15,900
วิธีเล่น Facebook เฟซบุ๊ก แต่ง facebook
วิธีใช้ ทวิตเตอร์
QR Code - เพียงถ่ายภาพด้วยมือถือก็เข้าเน็ตได้แล้ว
Better Man