แม้ว่าปีนี้สภาพอากาศบ้านเราจะร้อนช้ากว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดเครื่องปรับอากาศให้มีการแข่งขันกันลดลงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกับยิ่งทำให้การช่วงชิงส่วนแบ่ง รวมถึงการทำตลาดเครื่องปรับอากาศบ้านเรารุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่คาดว่าจะร้อนมากกว่าปกติ 40% โดยได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนิลโญ่
     ขณะที่แนวโน้มการแข่งขัน นอกจากนวัตกรรมอินเวอร์เตอร์ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่บรรดาผู้ประกอบการในตลาดต่างหันมาใช้ ด้วยกระแสการตื่นตัวของแนวโน้มกรีนหรือการใช้พลังงานโดยคิดถึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนสำคัญ  ทำให้ค่ายผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศหันมาให้ความสำคัญกับตลาดแอร์เพื่อประหยัดพลังงานและอนุรักษ์โลกไปด้วยในตัว
     อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา พบว่าตลาดรวมเครื่องปรับอากาศในเชิงมูลค่ามีการเติบโตสูงถึง 20-30% ขณะที่ตลาดรวมในปีนี้ ก็ยังคงมีการเติบโตมากกว่า 15%  เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าราว 1.28 หมื่นล้านบาท หรือ 1.4 ล้านเครื่อง คิดเป็นการเติบโตประมาณ 15% ทั้งนี้เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปกติ อัตราการครอบครองเครื่องปรับอากาศของคนไทยที่ยังน้อยมาก หรือที่ 30% แสดงให้เห็นว่ายังมีดีมานด์หรือความต้องการอีกจำนวนมากที่มีความต้องการเครื่องปรับอากาศ
  +++ ไดกิ้น เปิด 5 รุ่นใหม่รับดีมานด์
     นายบัณฑิต  ศรีวัลลภานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่ทั้งสิ้น 5 รุ่น ได้แก่ ไดกิ้น อูรุซาระ เซเว่น"  (Daikin Urusara7) ที่มาพร้อมโหมดปรับความชื้นในอากาศ, ไดกิ้น ยูโรเปี้ยน ดีไซน์ มีจุดเด่นที่รูปแบบที่สวยงาม จากยุโรป,ไดกิ้น อินเวอร์เตอร์ ไฮท์ ,ไดกิ้น อินเวอร์เตอร์ สแตนดาร์ด และเครื่องปรับอากาศไดกิ้น รุ่นสแตนดาร์ด ธรรมดา โดยจะทยอยเปิดตัวรุ่นแรกในเดือนเมษายนนี้ และต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี
     โดยมีหัวหอกหลักคือไดกิ้น อูรุซาระ เซเว่น ซึ่งบริษัทได้วางกลยุทธ์ทางการตลาด โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการนำสารทำความเย็น R32 ลดสภาวะเรือนกระจกหรือโลกร้อนได้ 3 เท่าจากน้ำยาปกติ มาใช้เป็นรายแรกของประเทศ ซึ่งถือเป็นผู้นำตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้ ในด้านแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ ต้องการส่งเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัย มีระดับโดยเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่  "บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์" ในหนังโฆษณาล่าสุดของไดกิ้นด้วย ซึ่งมีลุกของคนรุ่นใหม่ ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จ เป็นศิลปินนักร้องชื่อดัง และที่สำคัญยังเป็นผู้นำครอบครัวยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและนวัตกรรมใหม่ๆ
     "แนวโน้มกระแสรักษ์โลกกำลังมาแรง และเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ยุโรป ซึ่งมองว่านวัตกรรมใหม่ รวมถึงน้ำยาสูตรใหม่ R32 ที่เป็นตัวลดสภาวะโลกร้อนจะเข้ามาแทนที่นำยาแบบเดิมในอีก 4-5 ปีข้างหน้า"
     ขณะที่งบประมาณการตลาดได้เตรียมไว้กว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทีวี นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ควบคู่กับการจัดโรดโชว์ใน 5 จังหวัดหัวเมืองหลัก เพื่อสื่อถึงจุดเด่นของแบรนด์คือความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้แก่ผู้บริโภคเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มบ้านที่มีเด็กเล็ก กลุ่มบ้านที่มีผู้สูงอายุ เป็นต้น
  +++แอร์โตสวนกำลังซื้อชะลอตัว
     แนวโน้มในตลาดเครื่องปรับอากาศปีนี้มองว่าภาพรวมจะเติบโตที่ 1-3% แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง ภาพรวมเศรษฐกิจ โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมการเติบโตในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลงกว่า 20% โดยในส่วนไดกิ้น ลดลง 10% ทั้งนี้เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่เย็นยาวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไดกิ้นสามารถสร้างการเติบโตได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ 5%  ด้านภาพรวมยอดขายตลอดทั้งปีมองว่าบริษัทจะเติบโตจากปีที่ผ่านมาที่ 10% โดยคิดเป็นยอดขายของกลุ่มนวัตกรรมอินเวอร์เตอร์ทั้งสิ้น 30% โดยไดกิ้นครองส่วนแบ่งทางการตลาด (ในเชิงมูลค่า) ที่ 20% เป็นเบอร์ 1 ในตลาด จากมูลค่าตลาดรวมที่ 3 หมื่นล้านบาท 2 รุ่น จะเป็นเครื่องปรับอากาศนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น และยุโรป ขณะที่อีก 3 รุ่นได้แก่  ไดกิ้น อินเวอร์เตอร์ ไฮท์ ,ไดกิ้น อินเวอร์เตอร์ สแตนดาร์ด และเครื่องปรับอากาศไดกิ้น รุ่นสแตนดาร์ด ธรรมดา จะเป็นการผลิตภายในประเทศ ทั้งนี้จากแนวโน้มค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อเครื่องปรับอากาศในกลุ่มนำเข้า ซึ่งส่งผลให้มีแนวโน้มอาจปรับราคาในกลุ่มเครื่องปรับอากาศที่นำเข้าขึ้น 5%
  +++ฮิตาชิชิงแชร์ต่อเนื่อง
     นายบุญชัย พุทธาโกฐิรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท ฮิตาชิเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า  แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ในปี 2557 นี้ ยังให้ความสำคัญกับการมุ่งมั่น คิดค้นเทคโนโลยี และนวัตกรรมตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในด้านความสะดวกสบาย และในขณะเดียวกัน ก็ต้องประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะการแข่งขันในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าค่อนข้างสูง ทำให้บริษัทต้องให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด โดยบริษัท ตั้งเป้าเติบโตสูงสุดในตลาดเครื่องปรับอากาศ และสินค้าที่เป็นจุดเด่นในช่วงต้นปีจะเน้นไปที่เครื่องปรับอากาศ  ซีรีส์ใหม่ ซึ่งมีถึง 13 รุ่นด้วยกัน
     จากการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคนั้น ส่วนใหญ่ต้องการระบบฟอกอากาศในเครื่องปรับอากาศ แต่เนื่องจากจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกหลายพันบาท โดยเครื่องปรับอากาศฮิตาชิรุ่นใหม่มีระบบฟอกอากาศทุกรุ่น แต่จ่ายเงินน้อยกว่ารุ่นฟอกอากาศทั่วไปถึง 2-3 พันบาท ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น และเทคโนโลยีหลักของเครื่องปรับอากาศฮิตาชิคือ สเตนเลสส์คลีน คือการนำเอา สเตนเลสส์คุณภาพสูงมาใช้เป็นส่วนประกอบภายในเครื่องปรับอากาศเพื่อลดการสะสมของฝุ่นและแบคทีเรียในตัวเครื่อง ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า "อากาศที่สะอาดอย่างแท้จริงต้องมาจากเครื่องปรับอากาศที่สะอาดจากภายใน" นอกจากนี้ สินค้าอื่นๆไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้า ตู้เย็น หม้อหุงข้าว รวมถึงสินค้าที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น (Made in Japan)ก็คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
     กลยุทธ์สำหรับปีนี้ คือการทำกิจกรรมการตลาดแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญส่งเสริมการขายกับผู้แทนจำหน่าย รวมไปถึงการทำโปรโมชันที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแบบเข้าถึง อาทิเช่น กิจกรรมโรดโชว์ที่จะเน้นให้ความรู้ สาธิตวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง  และแนะนำการใช้งานของฟังก์ชันต่างๆ  ที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างแท้จริง รวมถึงการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างแบรนด์และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคด้วย ซึ่งการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องใน 2 ปีที่ผ่านมาของฮิตาชิ ทำให้เราเชื่อมั่นว่า  ในปีนี้เราจะเติบโตได้สูงถึง 10 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอย่างแน่นอน
  +++เบอร์ 1 ตลาดอินเวอร์เตอร์
     นายสินเมธ อิ่มเอม หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแอลจี อีเล็คทรอนิคส์ (ประเทศไทย)  ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์แอลจี กล่าวว่า ได้เตรียมงบการตลาด 300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนเปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่ 29 รุ่น แบ่งเป็น รุ่นอินเวอร์เตอร์ 14 รุ่น และรุ่นธรรมดา 15 รุ่น ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่เปิดตัวเพียง 20 รุ่น  พร้อมทั้งจัดกิจกรรมการส่งเสริมการตลาดในรูปแบบ 360 องศา อาทิ การจัดกิจกรรมโรดโชว์ตามจังหวัดต่างๆ 
     นอกจากนี้ ยังเน้นจับกลุ่มลูกค้าโครงการมากขึ้น โดยเพิ่มสัดส่วนจาก 3% เป็น 6 % ในปีนี้ เพราะภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยทั้งโครงการบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้ามีการเติบโตต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าคอนซูเมอร์ด้วย
     "มั่นใจว่าจากการทำตลาดในปีนี้จะทำให้แอลจี มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 14% เป็น 19% และขึ้นมาอยู่เบอร์ 2 ของตลาด จากปัจจุบันที่เป็นเบอร์ 3"            
     ขณะที่เป้ายอดขายเครื่องปรับอากาศปีนี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 2.8 แสนเครื่อง คิดเป็นมูลค่า 3.5 พันล้านบาท เติบโต 30% แบ่งเป็นรุ่นธรรมดา 2.3 แสนเครื่อง และรุ่นอินเวอร์เตอร์ 5 หมื่นเครื่อง โดยยอดขายจากเครื่องปรับอากาศคิดเป็นสัดส่วน 15% จากยอดขายรวมทั้งปีที่ตั้งเป้าไว้ 2.2 หมื่นล้าน
  +++ซัมซุง วางเป้าโตกว่าตลาด
     นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจเครื่องปรับอากาศ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ซัมซุง กล่าวว่า ได้ใช้งบการตลาดใกล้เคียงกับปีก่อนเปิดตัวเครื่องปรับอากาศ เดอะ ไทรแองเกิ้ล จำนวน 25 รุ่น ทั้งรุ่นธรรมดาและอินเวอร์เตอร์ ด้วยรูปแบบดีไซน์รูป 3 เหลี่ยม รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบ 360 องศา ครอบคลุม พร้อมทั้งโปรโมชันกับแคมเปญ คลายร้อน ผ่อนสบาย หรือผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน