เขียนโดย อ.สมเกียรติ โอสถสภา ...

 

หนึ่ง) ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสำรองเงินตราต่างประเทศอันดับ 12 ของโลก  ราว 183,000 ล้านเหรียญ พอๆกับเยอรมัน มากกว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ตุรกี มาเลเซีย เอมิเรทส์ ออสเตรเลีย และอีกเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก

 

ประเทศและกลุ่มประเทศที่มากกว่าไทย คือ จีน ญี่ปุ่น ซาอุ ใต้หวั่น รัสเซีย เกาหลี อินเดีย ฮ่องกง สิงคโปร์ ....

 

ในยามวิกฤติแบบนี้ ประเทศที่มีสำรองยิ่งมาก ยิ่งดี ก็เหมือนกับคนที่มีเงินสดเก็บไว้เยอะแหละครับ เขามั่นใจมาก 

 

ประเทศอื่นๆ ที่ควรรู้ คือ

มาเลย์ 95,000 ฟิลิปปินส์ 85,000 ออสเตรเลีย 49,000 เวียดนาม 39,000 คูเวต 31,000 ออสเตรีย 24,000  พม่า 9,000 กัมพูชา 7,000 หน่วยเป็นล้านเหรียญนะครับ 

 

จากตัวเลขสำรองเขาเอาไปเปรียบเทียบกับหนี้ต่างประเทศ แล้วบอกว่าประเทศไทยสบายมาก 

 

สอง) สถิติการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด  ไทยเกินเป็นอันดับที่ 12 ของโลก พูดง่ายๆ ว่าค้าขายมีกำไร เงินไหลเข้าประเทศมากกว่าไหลออกทุกปี รวมเงินที่คนเอามาลงทุนอะไรต่างๆด้วย  การท่องเที่ยวด้วย 

 

พวกต่างชาติเขามองว่าไทยโชคดีสุดๆ มีรายได้จากการท่องเที่ยวอันดับ 7 ของโลก กรุงเทพแข่งกับลอนดอน ชิงที่หนึ่งเมืองท่องเที่ยวโลก ประเทศไทยมีฐานลูกค้าที่กว้างใหญ่มาก เป็นประเทศที่ถูกเป็นอันดับ 2 ของโลก ยังไปได้อีกยาวมาก เป็นศูนย์การบินของเอเชียด้วย อุตสาหกรรมต่อเนื่อง Value chain มากมาย การท่องเที่ยวนี่คือ อุตสาหกรรมอันดับหนึ่งของว้นนี้ครับ ไม่ใช่น้ำมัน อาวุธ อีเล็กทรอนิค เหล็ก สิ่งทอ 

 

ดูตัวเลขนิดกนึ่ง จีนเกินดุล 293,000 ล้านเหรียญ ญี่ปุ่น 137,000 ล้านเหรียญ ไทย 34,000 ล้านเหรียญ ที่สูงกว่าไทยอื่นๆ ก็มี เยอรมัน เกาหลี ฮอลแลนด์ สิงคโปร์ รัสเซีย อันดับ 12 ของโลกนะครับ เราเป็นประเทศ World class ทีเดียว 

 

สาม) การเกินดุล ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP 

 

คนจะมองออกว่าประเทศไหนเจ๊ง ไม่เจ๊งจากตัวเลขนี้

 

ของไทยเกินดุล ค้าขายได้กำไรเมื่อเทียบกับรายได้ของชาติถึง 8.5% อยู่อันดับ 5 ของโลกเท่าเยอรมัน สูงกว่าไทย คือ สิงคโปร์ 20% ไต้หวัน 12% ฮอลแลนด์ 9.9% 

 

หลายประเทศมีปัญหาหนักครับ เช่น ลิเบีย -28% ลาว มีกลุ่มเสี่ยงร่วมหนึ่งในสี่ของประเทศสำคัญของโลก ในยุคที่การลงทุนระหว่างประเทศลด ประเทศที่พึ่งพาเงินส่วนนี้จะลำบากมากครับ 

 

สี่) ไทยเป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่อันดับ 22 ของโลก ปีนี้การส่งออกติดลบ แต่ลบน้อยกว่าที่อื่นๆเยอะ ประเทศส่งออกรายใหญ่ของโลก คือ จีน อียู อเมริกา เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส ฮ่องกง ฮอลแลนด์ 

 

ห้า) การลงทุนจากต่างประเทศสะสม FDI Stock. 

 

ถ้าจะมองตัวเลขการลงทุน ซึ่งสะท้อนถึงการจ้างงาน แยกให้ดู เช่น...

- มูลค่าการลงทุนสะสมของประเทศไทยอยู่ที่เกือบแสนล้านเหรียญเทียบกับอินโดนีเซียที่ 21,000 ฟิลิปปินส์ 20,000 ด้วยทุนจำนวนนี้ มีกำไรก็ขยายกิจการไปเรื่อยๆ  ตอนนี้ขาดแรงงานมากเขาขอนำเข้าบัณฑิตมหาวิทยาลัยต่างชาติมาทำงาน ปีที่แล้วบริษัทในตลาดหุ้นไทยทำกำไรเพิ่ม 24% หุ้นไทยขึ้นสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก รู้ป่าวครับ ปีนี้ปรับตัวแป๊บ

 

-ดูการลงทุนภายใน มีโครงการต่างๆเพิ่มเต็มไปหมดระบบรางก็จ้างคนสามสี่หมื่นแล้ว 

ซื้อขายรถกะบะค้าขาย เปลี่ยนตึกบ้านเป็นร้านค้า ขยายทั่วกทม. ลองเดินลึกเข้าซอยไปน่าจะเพิ่มเป็นสิบยี่สิบเท่าตัว รับคนทำงานเยอะมาก แต่การแข่งขันรุนแรงมาก-

 

นี่คือการลงทุนของคนที่ไม่มีตัวเลขราชการ ไม่ลงทะเบียนด้วย 

- ที่ต้องดู คือ การลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ปีแรกหยุดไป ปีนี้ประกาศโครงการกันมากมาย 

 

รายได้ภาษีนิติบุคคลของไทยมาจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ราว 50% ของทั้งหมด บริษัทแนวTOP 2000 ก็จ่ายเยอะ SME จ่ายน้อยนะ 

 

คนที่เขามาคุยด้วยมองเมืองไทยแบบนี้  ว่าเป็นประเทศที่แข็งแกร่งมาก มองไทยแบบบวกมากๆ  แล้วยังบอกคนไทยหน้าตาดีมาก ..

 

**เอามายืนยันว่าประเทศเราเจ๋งมากครับ**